กับช่วงอากาศเช้าๆ แบบนี้ในช่วงปลายเมษายน ใกล้จะเข้าสู่เดือนพฤษภาคมแล้วนะครับ หลายท่านคงได้มีเวลาอยู่กับครอบครัว ได้เดินทาง รับประทานอาหารร่วมกัน นี่คือวัฒนธรรมไทย ที่บรรพบุรุษได้สรรค์สร้างออกมาทำให้สมาชิกในบ้านหรือในหมู่บ้านที่เดินทางไปทำงานได้มีโอกาสกลับมาตอบแทนบุพการี ได้มีโอกาสมาพบปะกับญาติพี่น้องที่ต้องห่างกันไปเป็นแรมปี แต่นักต่อสู้ยังต้องเดินทางต่อนะครับ เพราะหลังจากที่ กศจ.ได้รับการแต่งตั้งเรียบร้อยแล้ว บางอย่างรอไม่ได้ ถ้ารอเกินการเสียหายแก่ราชการแน่นอน ดังนั้นการประกาศการสอบแข่งขันก็ออกมาอย่างเป็นทางการแล้ว มาเริ่มทบทวนความรอบรู้กันต่อนะครับ อัพจนกว่าจะสมบูรณ์ที่สุด
มาแน่นอนครับ สำหรับข้อสอบประเด็นนี้
นโยบายด้านการศึกษาของ พลเอก ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ การแถลงนโยบายดา้นการศึกษาของ
พลเอก ดาวพ์งษ ์รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการในวันที่ 27 สิงหาคม 2558 จุดเน้นและแนวทางในการขับเคลื่อนนโยบายด้านการศึกษา ประกอบด้วย 2 ส่วน >>>มาแน่ๆ 1 ข้อ
1. กระแสพระราชดำรัสเกี่ยวกับการปฏิรูปการศึกษาของพระบาทสมเด็จพระเจา้อยู่หัว
***“ให้ครูรักเด็กและเด็กรักครู”
***“ให้ครูสอนเด็กให้มีน้ำใจต่อเพื่อน ไม่ให้แข่งขันกัน แต่ให้แข่งกับตัวเอง ใหเ้ด็กที่เรียนเก่งกว่า ช่วยสอนเพื่อนที่เรียนช้ากว่า”
***“ให้ครูจัดกิจกรรมให้เด็กทำร่วมกัน เพื่อให้เห็นคุณค่าของความสามัคคี”
2. นโยบายนายกรัฐมนตรี
1) ทา ให้เร็ว
มีผลสัมฤทธิ์ภายในเดือนกันยายน 2559 ให้มากที่สุด
ที่เหลือส่งต่อให้รัฐบาลต่อไป
2) ประชาชน สังคมพึงพอใจ
ประเทศไดค้นมีคุณภาพ
3) ปรับ ลดภาระงานที่ไม่จำเป็นของกระทรวงศึกษาธิการลง
4) เร่งปรับหลักสูตร/ตำราแต่ละกลุ่มเหมาะสม
การพิมพ์ตำราต้องคุ้มราคา
5) ผลิตคนให้ตรงกับความต้อการของประเทศ
จบแล้วต้องมีงานทำ เข้าทำงาน AEC ให้ทันปีนี้ ช่วยแก้ไขปัญหาว่างงาน และปัญหาสังคมได้
6) ปรับหลักสูตร ทำให้เด็ก ครู ผู้ปกครองมีความสุข
7) ใช้สื่อการสอน กระตุ้นผู้เรียนเพื่อสร้างแรงจูงใจในการเรียนรู้กับเด็ก
8) ลดความเหลื่อมล้ำจัดการศึกษาให้ทั่วถึง
เท่าเทียม และมีคุณภาพ
9) นา ระบบ ICT เข้ามาใช้จัดการเรียนรู้อย่างเป็นรูปธรรมและกว้างขวาง
10) เรียนไม่ใช่เพื่อสอบ แต่เรียนให้ได้ทักษะชีวิต
อยู่ในยุคโลกไร้พรมแดน นโยบายด้านการศึกษา
แนวทางการทำงาน >>>>>> ออกแน่นอน 1 ข้อ
แนวทางการทำงาน 3 ลักษณะ เพื่อขับเคลื่อนงานด้านการศึกษาข้างต้นทั้งหมด ได้แก่
- ทำงานแบบ Hit
the Point กล่าวคือ งานทุกงานต้องฉีกปัญหาให้ขาด ตีโจทย์ให้แตก
ตลอดจนหากิจเฉพาะและ กิจแฝงให้เจอ เพื่อที่จะได้แก้ไขปัญหาได้ตรงจุด
- ทำงานแบบ Dynamic
หมายถึง การขับเคลื่อนงานตลอดเวลา หยุดไม่ได้ เมื่อมีการสั่งงานไปแล้ว
จะไม่หยุดนิ่ง อย่างแน่นอน จะขับเคลื่อนงาน ดูแล และช่วยแก้ปัญหา
- ทำงานแบบ Lively
คือการทำงานแบบมีชีวิตจิตใจ ซึ่งการจะทำงานแบบนี้ได
้ผู้ร่วมงานต้องมีความเข้าใจเนื้องานตรงกับเรา จึงพยายามที่จะสร้างให้ทุกท่านเข้าใจเนื้องานที่จะทำ สร้างให้เห็นประโยชน์ร่วมกันกับสิ่งที่กำลังทำ เมื่อเข้าใจตรงกันและเห็นประโยชน์ร่วมกัน
เราก็จะมีความสุขที่จะทำ
เพราะใจเราจะไม่ต่อต้าน
ขอบคุณที่ติดตามเรา ฉบับนี้ขอจบการนำเสนอ สรุปความรอบรู้ ประเด็นที่ต้องออกข้อสอบ เก็บทุกประเด็น วันละ
1-2 ข้อครับ
ได้รับความรู้เยอะเลยครับ ขออีกครับก่อนสอบ
ตอบลบ